เปิดตัว พร้อมรีวิว Redmagic 6S Pro มือถือที่เกิดมาเพื่อ สายเกมเมอร์ เร็วแรงเกินเบอร์ พร้อมสยบทุกเกมบนสมาร์ทโฟน ด้วยชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888+ ภายใต้หน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR 5 dual – channel ขนาด 18 GB กับพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 3.1 ขนาด 512 GB
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เปิดตัวพร้อมกับวางจำหน่าย
ในประเทศไทยไปแล้วกับ nubia Redmagic 6 Series และล่าสุดประกาศชัดเจนจากทางเว็บไซต์ Gizmochina สำหรับรุ่น Redmagic 6S Pro ที่จะเปิดให้จองครั้งแรก ในประเทศจีน วันที่ 9 กันยายน ปี 2021 และในส่วนของการวางจำหน่ายแบบ Global มีแนวโน้มว่าจะประกาศ วันเวลา ที่แน่นอนในเร็ว ๆ นี้
ทางด้านข้อมูลสเปคที่ออกมานั้น เรียกว่าโดดเด่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Qualcomm Snapdragon 888+ 5G, หน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED Display ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด 2400 x 1080 พิกเซล พร้อมด้วยอัตรารีเฟรชหน้าจอ มากถึง 165 Hz เสริมการตอบสนองสัมผัสที่ไหลลื่นด้วย Touch Sampling Rate ระดับ 720 Hz ซึ่งโดยรวมจะมีความน่าสนใจมาก น้อยแค่ไหน ต้องตามมาเบิ่งดู เปิดตัว พร้อมรีวิว Redmagic 6S Pro ในนี้กันได้เลย
เริ่มต้นกันที่หน้าจอเหมือนเช่นเคย สำหรับจอแสดงผลของ Redmagic 6S Pro จะเป็นแบบ AMOLED Display กับความละเอียดสูงสุด 2400 x 1080 พิกเซล, อัตราการ Refresh rate อยู่ที่ 165 Hz และการตอบสนองต่อการสัมผัส Touch Sampling Rate ก็ทำระดับไว้มากถึง 720 Hz, อัตราส่วนคอนทราสต์ 1000000:1 (คืออัตราส่วนสีดำที่ดำที่สุด และสีขาวที่ขาวที่สุดซึ่งหน้าจอสามารถแสดงออกมาได้)
รองรับการทำงานแบบ Under – Display สำหรับการสแกนลายนิ้วมือ เพื่อปลด – ล็อก เครื่องได้อย่างรวดเร็ว นอกจากจะใช้ในการล็อกเครื่องแล้ว ก็ยังมีเซนเซอร์ตรวจจับค่า “การวัดชีพจร” มาให้อีกด้วย
มันโดนใจ มันใช่ คือมันดีมาก ๆ !! สำหรับชิปเซ็ตตัวล่าสุดอย่าง Qualcomm Snapdragon 888+ ผลิตบนสถาปัตยกรรม ขนาดจิ๋ว 5 นาโนเมตร ที่มีการอัปความเร็ว Higer Clock Speed และรองรับประสิทธิภาพการทำงานของ AI ให้เร็วและดียิ่งขึ้นกว่ารุ่นก่อน เพื่อรองรับสมาร์ทโฟน ระดับเรือธงรุ่นต่าง ๆ นับจากนี้
มาพร้อมกับหน่วยความจำภายใน (RAM) ประเภท LPDDR5 dual-channel ขนาด 18 GB และหน่วยความจำภายในถาวร (ROM) แบบ UFS 3.1 ขนาด 512 GB
และเนื่องจาก เป็นมือถือเกมมิ่งโฟน เพื่อรองรับความร้อนสูงในระหว่างการใช้งาน จึงได้มีระบบ Cooling System ในการลดอุณหภูมิ ที่ประกอบด้วยวัสดุจาก กราฟีน และเฟรม อลูมิเนียม เกรดพรีเมียม
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ และสิ่งจำเป็น ในมือถือเล่นเกม ยุคปัจจุบัน กับพัดลมระบายอากาศ ซึ่งมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 20,000 รอบ ต่อนาที (RPM) และไฟแสดงสีสันสวยงาม RGB Lights, พร้อมกับเจลนำความร้อน ภายในเครื่องอีกเพียบ
TikTok มี ยอดผู้ชมเฉลี่ย ในสหรัฐสูงแซงหน้า Youtube แล้ว
ได้มีการรายงานจากนักวิเคราะห์ว่าในเวลานี้ TikTok สามารถทำ ยอดผู้ชมเฉลี่ย ในประเทศสหรัฐอเมริกาแซงหน้า Youtube ไปแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อวานนี้ (7 ก.ย. 2564) – ได้มีกรายงานจากวิเคราะห์แอปพลิเคชั่นว่าในขณะนี้แอปพลิเคชั่น TikTok สามารถทำสถิติ ยอดผู้ชมเฉลี่ย ในพื้นที่สหรัฐอเมริกาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ต่อเดือน จนนำหน้า Youtube แพลตฟอร์มวิดีโอชื่อดัง
รายงานที่ว่านี้มาจาก App Annie บริษัทวิเคราะห์แอปพลิเคชั่น ที่ได้เปิดเผยข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชั่น TikTok โดยพบว่า การรับชมของ TikTok นั้นมีมากขึ้น และมากกว่า Youtube เมื่อเทียบกัน ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2564 นี้ TikTok สามารถทำยอดรับชมเฉลี่ยไปได้รายละ มากกว่า 24 ชม./เดือน ส่วน Youtube ทำไปได้ 22 ชม. 40 นาที/เดือน (ในพื้นที่สหรัฐอเมริกา)
ในขณะที่ในประเทศอังกฤษนั้นถือว่ามีความแตกต่างกันอย่างมาก ในเดือนพฤษภาคม 2564 TikTok สามารถทำไปได้เกือย 26 ชม./เดือน ส่วน Youtube นั้นสามารถทำไปแค่ต่ำกว่า 16 ชม./เดือน
ทั้งนี้แล้วข้อมูลจากการรายงานนั้น เป็นเพียงแค่ข้อมูลที่มาจากผู้ใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น ดังนั้นแล้วมันอาจจะไม่สามารถเรียกแทนผู้ใช้งานแพลตฟอร์มมือถือได้ทั้งหมด
แต่ก็พอที่จะแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และต่อเนื่องของการใช้งานแอปพลิเคชั่นดังกล่าว นอกจากนี้แล้วก็พิจารณารวมถึงผู้ใช้งานที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นด้วยกัน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าแอปพลิเคชั่นของ ByteDance นี้ เริ่มมีพื้นที่ในตลาดมากยิ่งขึ้น
ส่วนทางด้านของยักษ์ใหญ่อย่าง Youtube นั้นถึงจะเริ่มเสียพื้นที่ในยอดการรับชมเฉลี่ยแล้วนั้น มันยังคงสามารถครองยอดการรับชมโดยรวมอยู๋ อานิสงค์ส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากกว่า TikTok เป็นอย่างมาก (Youtube : 2 พันล้านกว่าราย / Tiktiok : 700 ล้านรายโดยประมาณ) รวมถึงการใช้จ่ายในตัวแอปนั้น Youtube ก็ยังสามารถทำได้มากกว่าด้วย (ยกเว้นในฐานผู้ใช้งานระบบ Android)
App Annie ได้วิเคราะห์ถึงเคล็ดลับความสำเร็จของ TikTok ไว้ว่า “วิดีโอสั้น, เนื้อหาที่ดูแท้จริง หรือให้ความเรียล และการถ่ายทอดสด (ที่ง่าย-สะดวก)”
สำหรับ REALME PAD ประกาศวางจำหน่ายแล้ว ในวันที่ 9 กันยายน ปี 2021 โดยราคาเปิดตัวที่ อินเดียอยู่ที่ 20,000 รูปี (INR) หรือคิดเป็นเงินไทย 8,896.27 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม) มีสีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Grey และ Gold
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> pokdengkings.com